วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2558

แนะนำ รถมอเตอร์ไซค์ Ninja 250sl

แนะนำ รถมอเตอร์ไซค์ Ninja 250sl


ขออนุญาตินำบทความมาจาก pantip.com เจ้าของกระทู้ สมาชิกหมายเลข 2665734 ไว้ ณ ตรงนี้ด้วย

สวัสดีครับ กระทู้นี้แค่จะมาแนะนำรถมอเตอร์ไซค์ที่ ผู้หญิงขับได้ ผู้ชายตัวเล็กขับดี กับมอเตอร์ไซค์ทรงสปอร์ตที่มุดในเมืองแบบสนุกๆกับเครื่องยนต์ไซส์มินิในตัว ถังแบบสลิม kawasaki ninja 250sl กับข้อเสียที่หลายๆคนบอกว่า "มันเล็กเกินไป"

        ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนเลยว่า แรกเริ่มเดิมทีผมมองไปที่มอเตอร์ไซค์ทรงสปอร์ต 150cc และแน่นอนตัวเลือกเดียวในใจผมคือ Yamaha R15 เพราะผมเป็นสาวก Yamaha อยู่แล้ว(ชอบคุณภาพสินค้าของ Yamaha และเทคโนโลยีในสนามแข่งด้วย) แถมไม่ชอบรูปร่างของ CBR150,250 อย่างแรง เพราะไม่งั้นผมคงถอย CBR150 ตัวหัว ฉีดไปนานแล้ว แต่ผมนี่รอมาหลายปีจน R15 เปิดตัว

                    แต่รถที่ผมชอบจริงๆในพิกัด 250-300 คือเจ้า Yamaha R3 ครับ แต่ราคามันสูงเกินที่ผมจะเอื้อมถึงครับ แต่อนาคตไม่แน่!!
                                                                                                

       และก็มาถึงเวลาที่ผมจะตัดสินใจถอยมอเตอร์ไซค์ไหม่อีกเพื่อเพิ่มตัว เลือกในการเดินทางทั้งไปทำงานและออกต่างจังหวัด (คันเก่า yamaha nouvo elegance) แน่นอนตัวเลือกแรก R15 แต่ก็ไม่ใช่ตัวเลือกเดียว เพราะผมก็มองตัวเลือกอื่นๆด้วย ในราคาไม่เกินแสน ตัวเลือกในใจก็
1. R15 ราคา 9x,xxx
2. ninja 250 มือสอง ทั้งตัวเก่าตัวใหม่ 6x,xxx - แสนต้นๆ
3. ninja 250sl
            หลังจากคิดไปคิดมาก็ตัดตัวเลือกที่ 2 ไป เพราะเนื่องจากเข็ดแล้วกับมอเตอร์มือสองที่ไม่รู้ว่ายำอะไรมาบ้าง หรือจะเอาแบบสภาพนางฟ้า ราคาก็แพงมาก แถมราคาไฟแนนซ์มือสองก็ดอกแพงเกินเลยตัดทิ้งไป เหลือแค่ 2 ตัวเลือก แต่ในใจเทไปทาง R15 ซะ 70% แล้ว เพราะตัว 250sl ราคามันเกินแสน และหลังจากที่ไปลองคล่อม รูปๆคลำๆเจ้า R15 ที่ศุนย์มา บอกตรงๆ แทบจะเอาขี่กลับบ้านวันนั้นเลย เพราะตัวจริงสวยมาก ชอบมาก ถูกใจไปหมด แถมท่าขับก็ออกแนว Racing ตามที่ผมชอบ ในใจผม 250sl แทบละลายหายไปเลย คิดว่ารุ่นนี้แหละ 150cc ก็พอ แต่ก็โดนสะกัดไว้โดยแฟนผม แฟนผมบอกให้ใจเย็นๆ ว่างๆลองไปดู 250sl ก่อน
          และจากที่ได้ไปลองคล่อม รูปๆคลำๆเจ้า nin250sl ดู กลับชอบมากกว่าเจ้า R15 อีก ด้วยรูปร่างที่โฉบเฉี่ยวเพรียวบาง ท่าขับมันกึ่งๆรถสนามเลย เหมาะกับคนตัวเล็กมากๆ ผมสูงแค่ 168 หนัก 60 ถือว่าตัวไม่ใหญ่  คราวนี้เครียดเลยครับ กลับมาบ้านคิดหนัก R15 สวย แถมเป็นแบรน Yamaha ราคาถูกว่า 250sl ประมาณ 3 หมื่นกว่าๆ ส่วน ninja250sl ก็ สวยกว่า ชอบมากกว่า เครื่องใหญ่กว่าแถมเบรค ABS แต่เป็นแบรน Kawasaki ราคา 123,000 คิดไปคิดมาก็มาจบที่เจ้า 250sl เพราะตอบโจทย์ผมได้มากกว่า ตรงที่คันเล็กว่า บางกว่า ช่วงรถสั้นกว่า แต่เครื่องใหญ่กว่าแถมเบรค ABS เพราะส่วนใหญ่ผมจะใช้ขับไปทำงานในกรุงเทพ เลยอยากได้รถมุดง่ายๆ ขับสนุก แถมเครื่อง 250cc วิ่งต่างจังหวัดสบายกว่า 150cc
        แล้วผมก็ได้เจ้า Ninja 250sl มาไว้ในครอบครอง

                              
                                          
                                   
            
                  
             เนื่องจากผมและแฟนต้องการรถสีขาว ย้ำว่าสีขาวเท่านั้น แต่สีเจ้า Ninja 250sl ปี 2015 มีแต่ เขียวกับดำ แน่นอนว่าเจ้าคันที่ผมเอามาเป็นสีปี 2014 ครับ ขาวๆ โล่งๆ แปะสติ๊กเกอร์ได้ตามใจชอบ 555 หลังจากที่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับเจ้า Ninja 250sl อยู่เกือบเดือน ก็พอจะบอกได้ว่า เจ้ารถคันนี้ขับขี่แล้วเป็นอย่างไรบ้าง
             -  เรื่องการขับขี่การใช้งาน เริ่มแรกต้องปรับตัวเล็กน้อย แต่หลังจากที่คุ้นเคยกับรถแล้ว ขับสนุกครับ มุดในกรุงเทพง่ายมาก คือง่ายกว่าที่คิด เปรียบเทียบกับเจ้านูโวคันเก่าผม กับเส้นทางที่ใช้อยู่ทุกวัน หลังจากที่พับกระจก รู้สึกเหมือนเจ้า Ninja 250sl จะมุดง่ายกว่าด้วยซ้ำ อาจจะเพราะอัตราร่งที่แรงกว่า เบรคที่หนึบกว่า เลยทำให้การเร่ง เบรค มุดซ้ายขวา ทำได้ง่ายมาก แถมบางช่องที่ผมไม่เคยเอานูโนมุดไปได้ แต่เจ้า Ninja 250sl ไปได้เฉย อาจจะเป็นเพราะ Ninja 250sl มีรูปร่างที่ เล็ก แคบ แถมช่วงตัวรถก็สั้น เหมือนผู้ผลิตเจาะจงมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ 55


                    

      - เครื่องยนต์ตัวนี้ตามข่าวบอกว่า เป็นเครื่องบล๊อคเดียวกับเจ้า kawasaki klx/d-tracker 250 สายพันธุ์วิบาก เป็นบล๊อคเครื่องตั้งแต่ต้นๆยุค 90s แต่น่าจะมีการปรับปรุงพัฒนาบ้างแหละ เพื่อให้เข้ากับลักษณะการใช้งาน เวลาขับแล้วได้ยินเสียงเครื่องเขกในรอบต่ำนี่ นึกถึง d-tracker เลย

      - ความเร็วที่ใช้บนเส้นทางจากบ้านไปที่ทำงานบางช่วงที่ถนนโล่งๆ เจ้านูโวคันเก่าเค้นแล้วเค้นอีก ได้ 115 เต็มที่แล้ว แต่เจ้า Ninja 250sl บางช่วงกดไปได้ 130 ในช่วงทางเดียวกัน จะกดหมดปลอกก็ไม่ดี รถเยอะครับ อันตราย   ส่วนเวลาขับบนเส้นทางต่างจังหวัด กรุงเทพ-สุพรรณบุรี(บ้านผม) ก็พอไหวครับ ใช้ความเร็วช่วง 100-120 ได้อยู่ครับ จะเร่งแซงก็พอได้ครับ ไม่เหนื่อยมาก ส่วนอัตราการทดกำลังเหมือนจะน้อยไป ความเร็วในช่วง 100-120 เหมือนรอบเครื่องจะสูงไปนิดๆ (อาจจะใช้ชุดเกียร์ชุดเดียวกับเจ้า klx/d-tracker)

                 
                
       - ท่านั่งเวลาขับ อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นเลยครับว่า เหมาะกับคนตัวเล็กจริงๆ คนตัวใหญ่ๆหรืออ้านๆ แค่ขึ้นคล่อมก็ดูแปร่งๆแล้วครับ เวลาขับก้มค่อนข้างเยอะครับ เรื่องเมื่อยแขนน่ะ เมื่อยแน่นอนครับ ปรับท่านั่งเล็กน้อย ท้าวแขนบนถังน้ำมัน ก็ช่วยได้บ้าง แต่ผมชอบท่าขับแบบนี้ เมื่อยก็ยอม อนาคตเล็งเกียร์โยงไว้แล้ว อิอิ ไม่ต้องพูดถึงพวกคนตัวใหญ่ๆ เหมือยหลังเมื่อยแขนแน่นอนครับ

                                    
                        เปรียบเทียบท่านั่งครับ ผมสูง168 หนัก60 คล่อมสองเท้าไม่เต็มครับ ต้องแขย่งปลายเท้า (เป็นคนขาสั้นครับ)

      - ปัญหาที่พบเจอมีข้อเดียวครับ นาฬิกาที่เรือนไมล์ไม่เดินครับ ตั้งแต่ออกจากศูนย์มาเลย เพิ่งสังเกตุตอนมาถึงบ้าน แต่สั่งเคลมไปแล้ว ตอนนี้ยังรอของอยู่เลย จะครบ 1000 กิโลแล้ว          
                                        
      - เรื่องอัตราสิ้นเปลือง อันนี้ขอโทษจริงๆครับ ไมเคยวัดเลยครับ ส่วนตัวไม่ค่อยคำนึงเรื่องนี้ซักเท่าไหร่ แต่จากความรู้สึก เหมือนจะกินพอๆกับนูโว135 แต่เจ้านูโวผมทางโล่งๆผมซัดหมดปลอกตลอดนะ ส่วน 250sl ไม่ค่อยได้บิดมากครับ
    
       ข้อดีข้อเสีย
      - ข้อดี รถเล็ก น้ำหนักค่อนข้างเบา(เบาสุดในพิกัด 250-300) คล่องตัว อัตราเร่งดี ขี่สนุก ไฟหน้าสว่างมาก เบรคหนึบดี ท่าทางการขับสปอร์ต
      - ข้อเสีย เสียงเครื่องค่อนข้างดังและเขก กักๆๆๆ คนซ้อนนั่งลำบากมาก(แต่ผมไม่แคร์เรื่องนี้เพราะปกติไม่มีคนซ้อน) ช่องเก็บของใต้เบาะเล็กไปนิด(ขอแค่เก็บประกระเป๋าตังค์กับโทรศัพท์ยังไม่ได้ เลย)




       - สรุป
            สำหรับผมเจ้า ninja 250sl ตอบโจทน์ผมตรงที่ คันไม่ใหญ่ ขี่ในเมืองคล่อง ออกต่างจังหวัดได้ ความรู้สึกผมคิดว่าเจ้า ninja 250sl เป็นรถในพิกัด 150cc แต่ได้เครื่อง 250cc กับเบรคABS เป็นของแถมครับ สุดท้าย รีวิวนี้ผมไม่ได้มาโฆษณาสินค้าอะไร ส่วนตัวไม่เคยตั้งกระทู้มาก่อน กระทู้นี้แค่จะมาแนะแนวทางเลือกสำหรับผู้ที่กำลังมองหามอเตอร์ไซค์ทรงสปอร์ต ซักคัน กับงบประมานที่จำกัดและยังลังเลอยู่ หวังว่ารีวิวนี้จะมีประโยชน์บ้าง นิดหน่อยก็ยังดี มีข้อตำหนิหรือข้อสงสัยอะไรก็บอกกล่าวหรือถามมาได้เลยครับ ขอบคุณครับ

ขอบคุณบทความจาก : http://pantip.com/topic/34220378

วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

HONDA Dream110i SUPER Cub PGM-Fi ฮอนด้า ดรีม110ไอ หัวฉีด

HONDA Dream110i SUPER Cub PGM-Fi ฮอนด้า ดรีม110ไอ หัวฉีด



HONDA Dream110i SUPER Cub PGM-Fi ฮอนด้า ดรีม110ไอ หัวฉีด
ด้วยการเปิดตัวฮอนด้าซูเปอร์คับใหม่ (New Super Cub) หนึ่งเดียวที่รวมเอาความเก๋าของรถคลาสสิก
มาพร้อมเสน่ห์สุดเก๋าเกินใครด้วยดีไซน์วินเทจทั้งคัน โดดเด่นด้วยสีสันทูโทนใหม่ที่สดใสยิ่งขึ้น
ขับขี่สนุกกับเครื่องยนต์ระบบหัวฉีด PGM-FI ขนาด 110cc. ยุคใหม่ ดูแลรักษาง่ายขึ้น ประหยัดน้ำมันถึง 57 กม./ลิตร

พร้อมเทคโนโลยีเพื่อความความปลอดภัยที่ครบครัน เริ่มวางจำหน่ายทั่วประเทศตั้งแต่ 26 พฤษภาคมเป็นต้นไป



มร.โนบุฮิเดะ นางาตะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า
“รถตระกูลฮอนด้าซูเปอร์คับเป็นรถที่ได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่นมามากกว่าครึ่งศตวรรษ
และได้กลายเป็นเป็นไอคอนของรถในสไตล์คลาสสิคที่อยู่ในใจของคนทั้งโลกรวมถึงคนไทยด้วย
สิ่งนี้คือจุดเริ่มต้นในการพัฒนาซูเปอร์คับยุคใหม่ลงสู่ตลาดของไทยในปีที่แล้ว
ซึ่งรถรุ่นดังกล่าวก็ได้รับความนิยมจากคนที่ชื่นชอบแฟชั่นแบบวินเทจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคนเมืองที่ต้องการรถที่สามารถแสดงอัตลักษณ์ของตนเองได้อย่างชัดเจน มาในปีนี้

เราได้เพิ่มเสน่ห์ให้กับฮอนด้าซูเปอร์คับขึ้นไปอีกระดับด้วยการออกแบบให้ตัวรถมีสีสันที่สดใส
มีกลิ่นอายของความเป็นป็อปคัลเจอร์ของญี่ปุ่นในยุคทศวรรษที่ 70 ถึง 80 ภายใต้คอนเซปต์เก๋าสุดฮิต เจแปนนิสสไตล์ ถือเป็นการนำเสนอความสนุกแบบย้อนยุคให้กับคนที่รักความคลาสสิคได้สัมผัสกันอีกครั้ง” ฮอนด้าซูเปอร์คับใหม่ (New Super Cub) เก๋าสุดฮิต เจแปนนิสสไตล์ได้รับการออกแบบให้ถ่ายทอดเรื่องราวความเก๋าแบบย้อนยุคของญี่ปุ่นด้วยสีสันแบบทูโทนที่สดใส ทันสมัยด้วยเครื่องยนต์ 4 จังหวะระบบหัวฉีด PGM-FI 110cc. ยุคใหม่ล่าสุดที่ได้รับการพัฒนาให้ดูแลรักษาง่ายขึ้น


ให้สมรรถนะเต็มพลังทั้งบนทางเรียบและทางลาดชัน แต่ประหยัดน้ำมันสูงถึง 57 กิโลเมตร/ลิตร จากการวัดตามมาตรฐาน สมอ. Mode ECE R40 ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยค่าไอเสียที่สะอาดผ่านมาตรฐานระดับ 6 และรองรับน้ำมัน E20ฮอนด้าซูเปอร์คับใหม่ ใช้งานสะดวกสบายด้วยเกียร์วน 4 ระดับ พร้อมระบบสตาร์ทมือ

แผงหน้าปัดดีไซน์ล้ำสมัยพร้อมไฟบอกตำแหน่งเกียร์ นุ่มนวลทุกการบรรทุกด้วยโช้กหลังขนาดใหญ่แบบโครเมียมปรับได้ 2 ระดับ ปลอดภัยด้วยที่บังโช่แบบเต็ม และระบบกุญแจนิรภัย 2 ชั้นเพื่อความอุ่นใจทุกครั้งที่จอด มีให้เลือกเก๋าทั้งหมด 4 แนวได้แก่สีเหลือง, ชมพู, น้ำเงิน, เขียว



ที่มาจาก : http://www.jrmotor.com

กองทัพสหรัฐฯ พัฒนาโฮเวอร์ไบค์จากเครื่องบ๊อกเซอร์ของ บีเอ็มดับเบิลยู อาร์1200อาร์

กองทัพสหรัฐฯ พัฒนาโฮเวอร์ไบค์จากเครื่องบ๊อกเซอร์ของ บีเอ็มดับเบิลยู อาร์1200อาร์



โฮเวอร์บอร์ด โฮเวอร์ไบค์ สุดล้ำที่เรามักได้เห็นในภาพยนต์หรือการ์ตูนอนิเมชั่นสุดล้ำคงกำลังจะกลาย เป็นจริงในไม่ช้า หลังจากมีโครงการพัฒนาออกมาถี่ขึ้นเรื่อยๆ

เล็กซัสเองก็มีโครงการพัฒนาโฮเวอร์บอร์ดขึ้นเพื่อโชว์ความล้ำของเทคโนโลยีแต่มิได้ทำเพื่อขาย ส่วนรายนี้เองก็เป็นระดับบิ๊กของวงการ อย่างกองทัพสหรัฐฯ ที่อยากได้โฮเวอร์ไบค์สำหรับใช้ทางทหาร




กองทัพสหรัฐฯ พัฒนาโฮเวอร์ไบค์ตัวต้นแบบลำนี้โดยใช้เครื่องยนต์ของ บีเอ็มดับเบิลยู อาร์1200อาร์ ด้วยความร่วมมือของบริษัทวิศกรรมจากประทศอังกฤษเพื่อการเคลื่อนที่อันรวด เร็วในสนามรบที่มีสภาพภูมิประเทศที่หลากหลายเกินคาดเดา
เทคโนโลยีนี้ก็ไม่ใช่แค่เรื่องราวหลอกเด็กจากจักรวาลอันไกลโพน นะครับทุกท่าน และเป็นโฮเวอร์ไบค์ที่บินได้จริงๆ ผ่านการทดสอบการบินโดยผูกยึดเอาไว้กับเชือกมาแล้ว
เมื่อเปรียบเทียบกับเฮลิคอปเตอร์แล้ว โฮเวอร์ไบค์ที่เกิดจากการผสานระหว่างรถจักรยานยนต์และเฮลิคอปเตอร์เข้าด้วย กันนั้นมีราคาถูกกว่ามาก และจะเป็นอนาคตของการบินในยุคหน้า ซึ่งทีมพัฒนากำลังจะเปลี่ยนไปใช้เครื่องยนต์แบบสี่สูบแทนเครื่องบ๊อกเซอร์ใน รุ่นต้นแบบปัจจุบัน




โฮเวอร์ไบค์ตัวต้นแบบในปัจจุบันนั้นถูกสร้างขึ้นจากเฟรมคาร์บอน ไฟเบอร์ เคฟลาร์ อลูมิเนียม เครื่องยนต์ 1170 ซีซี ระบายความร้อนด้วยอากาศ โดยมีน้ำหนักรวมทั้งลำเพียง 105 กก. และกินน้ำมันมากถึง 1 นาทีต่อครึ่งแกลลอน

ทีมพัฒนาพยายามที่จะสร้างโฮเวอร์ไบค์ให้ไปถึงจุดที่บิน ได้สูงมากถึง 1หมื่นฟุตจากพื้นดินและมีระยะทำการมากถึง 140 กม. เพื่อให้ใช้งานได้จริงในทุกสภาวะ ซึ่งเราคงจะต้องเฝ้าคอยติดตามความคืบหน้ากันต่อไป

Zecoo มอไซค์ไฟฟ้าในแบบสกู๊ตเตอร์ ที่เห็นแล้วต้องอึ้ง

Zecoo มอไซค์ไฟฟ้าในแบบสกู๊ตเตอร์ ที่เห็นแล้วต้องอึ้ง





กระแสรถมอไซค์ไฟฟ้ากำลังมาแรงจริงๆ มีข่าวจากค่ายต่างๆออกมาให้เห็นบ่อยๆ ซึ่งในคราวนี้แหล่งข่าวจาก morebikes ได้กล่าวถึงมอไซค์ไฟฟ้าอีกรุ่นหนึ่ง คราวนี้เป็นรถมอไซค์ไฟฟ้าในแบบ สกู๊ตเตอร์ ในนามว่า Zecoo ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาในประเทศญี่ปุ่น โดยสิ่งที่โดดเด่นมากสำหรับ Zecoo ก็คือโช๊คอัพหน้าและหลังแบบสวิงอาร์มเดี่ยว โอ้ววววแม่เจ้าอะไรมันจะงดงามเพียงนี้


 แถวด้วยระบบเบรคหน้าแบบ 6 ลูกสูบ และจานดิสก์เบรคขนาดใหญ่ที่ถูกติดตั้งไว้กับขอบล้อ พร้อมด้วยโช๊คอัพ Nitron เรียกได้ว่าเป็นของดีๆเทพๆกันเลยคันนี้ ในส่วนของโครงรถนั้นเป็นอลูมิเนียมเน้นเบากันเลย และบอดี้เป็นคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งในตอนนี้ทางผู้ผลิตกำลังหาวิธีการทำราคาให้เหมาะสม และเมื่อผลิตออกมาคงจะเป็นรถมอไซค์ไฟฟ้าที่น่าสนใจรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว คงต้องตามติดกันต่อไปว่าจะทำออกมาได้จริงในราคาเท่าไหร่ แต่โอกาสที่จะมาไทยยังคงไม่ขอคิดถึงละกันครับ




ที่มา : morebikes.co.uk,http://www.mocyc.com

วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2558

แนะนำ รถมอเตอร์ไซค์ Honda Wave 110 i

แนะนำ รถมอเตอร์ไซค์ Honda Wave 110 i


แนะนำรถมอเตอร์ที่ประหยัดน้ำมันกันบ้างครับ นั่นก็คือรถมอเตอร์ไซค์ Honda Wave 110i ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีหัวฉีด PGM-FI ประหยัดน้ำมันถึง 64.4 กม./ลิตร รูปลักษณ์ทันสมัยโดนใจวัยรุ่น

Head Ligth ไฟหน้าส่องสว่างทุกเส้นทาง
Leg Shield บังลมขนาดใหญ่ออกแบบมาเพื่อปกป้องขาของผู้ขับขี่ กันลมและน้ำได้ดีเยี่ยม
Eco Tire ยางที่ช่วยให้คุณประหยัดน้ำมัน
U-Box กล่องเก็บของขนาดใหญ่สามารถเก็บหมวกกันน็อกแบบครึ่งใบได้
Speedo Meter มาตรวัดความเร็วขนาดใหญ่และสวยงาม บอกตำแหน่งเกียร์ได้อย่างชัดเจน


เครื่องยนต์ใช้ระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีดแบบหัวฉีด PGM-FI 4 จังหวะ SOHC แบบซิงเกิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ระบายความร้อนด้วยอากาศให้คุณได้ประหยัดสุดๆ


ราคา Honda Wave 110i ฮอนด้า เวฟ 110 ไอ รุ่นดรัมเบรกหน้า สตาร์ทเท้า ราคา 39,000.
ราคา Honda Wave 110i ฮอนด้า เวฟ 110 ไอ รุ่นดิสก์เบรกหน้า สตาร์ทเท้า ราคา 41,000.
ราคา Honda Wave 110i ฮอนด้า เวฟ 110 ไอ รุ่นดิสก์เบรกหน้า สตาร์ทมือ และเท้า ราคา 44,500.





ขอบคุณข้อมูลจาก www.aphonda.co.th

วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2558

2 สีใหม่ของ รถมอเตอร์ไซค์ Yamaha Grand Filano 2015 พร้อมชุดแต่งพรีเมียม

2 สีใหม่ของ รถมอเตอร์ไซค์ Yamaha Grand Filano 2015 พร้อมชุดแต่งพรีเมียม

 
เมื่อประมาณต้นเดือน ก.พ. ทางบริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ได้เปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ออโตเมติกสุดพรีเมี่ยม โฉมใหม่ของ Yamaha Grand Filano 2015 ด้วยสีใหม่อย่างแมท สไตล์ หรือสีด้านแบบเมทัลลิคที่เพิ่มความหรูให้กับ Yamaha Grand Filano 2015 มากขึ้น โดยเปิดตัวด้วยกัน 2 สี คือ สีน้ำเงินและสีน้ำตาล-ดำ มาพร้อมกับชุดแต่ง Smart Customized ที่จะทำให้คุณรู้สึกโดดเด่นในแบบของคุณเฉพาะใน Yamaha Grand Filano 2015 เท่านั้น


มาดูกันที่รูปลักษณ์หรูหราของรถมอเตอร์ไซค์ Yamaha Grand Filano 2015 ที่มีทั้งล้ออัลลอยดีไซน์เฉพาะ 12 นิ้ว พร้อมปุ่มฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆ ทั้งปุ่มกางที่วางเท้าหลัง และปุ่มเปิดถึงน้ำมันด้านหน้า รวมไปถึงกุญแจรีโมทอัจฉริยะ Answer Back System


ยังคงเป็นเครื่องยนต์ BLUE CORE หัวฉีด 125CC เหมือนเคย ที่ให้ความประหยัดสูงสุดถึง 60 กม./ลิตร ปล่อยไอเสียได้ต่ำจนอยู่เหนือมาตรฐานระดับ 6 ทำให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแน่นอน

Yamaha Grand Filano 2015 ราคาประมาณที่ 55,000 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ยามาฮ่า หรือตัวแทนจำหน่ายยามาฮ่ามั่วประเทศ


ข้อมูลจาก : http://www.autocar.in.th
ภาพประกอบจาก : yamaha-motor.co.th

วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2558

Yamaha เปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ YZF-R1 และ YZF-R1M ครั้งแรกในประเทศไทย

Yamaha เปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ YZF-R1 และ YZF-R1M ครั้งแรกในประเทศไทย


Yamaha เปิดตัวสุดยอดรถมอเตอร์ไซค์ในงานมอเตอร์โชว์ 2015 ภายใต้แนวคิด "Yamaha Rev Circuit" สนามแข่งที่เต็มไปด้วยประสบการณ์สุดเร้าใจและเปิดตัวซูเปอร์ไบค์ YZF-R1 และ YZF-R1M ครั้งแรกในประเทศไทย ด้วยราคา 899,000 บาท และ 1,199,000 บาท



     รถมอเตอร์ไซค์ YZF-R1 ปี 2015 นี้ได้เปลี่ยนความเป็นรถซูเปอร์ไบค์ระดับ Moto Gp กลายเป็นรถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตเพื่อการขับขี่บนท้องถนน ด้วยปรับเปลี่ยนองค์ประกอบหลักๆ ทั้งหมด น้ำหนักของรถที่เบาลง เครื่องยนต์ 4 สูบขนาด 998cc ส่งแรงขับเคลื่อนได้อย่างมหาศาล ติดตั้งด้วย Inertial Measurement Unit (IMU) วัดมุมองศาได้ถึง 6 แกน ซึ่งใช้กับยานอวกาศ เป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่ผู้ขับจะได้ควบคุมแบบ 3 มิติเป็นครั้งแรกด้วย ราคา 899,000 บาท




     ในขณะที่ YZF-R1M คือการเอาเทคโนโลยีขั้นสูงที่ใช้พัฒนา YZR-M1 รถแข่ง Motogp ได้อย่างใกล้เคียงที่สุดในรถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตเคยมีมา ผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีสุดล้ำเข้าด้วยกัน เพื่อให้ผู้ขับขี่รู้สึกถึงความสุนกเร้าใจ และยังให้ความนุ่มนวลในการบังคับรถ รูปแบบของ R1M ได้แรงบันดาลใจมาจาก YZR-M1 อย่างแท้จริงด้วย ราคา 1,199,000 บาท


 
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.manager.co.th
เรียบเรียงโดย : JoeBlogger

วันพุธที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2558

การดูแลรักษารถจักรยานยนต์

การดูแลรักษารถจักรยานยนต์


การดูแลรักษารถมอเตอร์ไซค์ของคุณอยู่เสมอ จะช่วยให้รักษาสภาพรถมอเตอร์ไซค์ของคุณ ทำให้รถของคุณมีสมรรถนะสูงสุดและทำให้คุณขับขี่อย่างปลอดภัยไร้ปัญหา

การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและตัวกรอง

น้ำมันเครื่องต้องเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอจะช่วยยืดอายุการใช้งานของรถมอเตอร์ไซค์ของคุณให้ใช้งานได้
นานยิ่งขึ้น

ไส้กรองอากาศ

การเปลี่ยนไส้กรองอากาศ หากเป็นไส้กรองชนิดกระดาษ คุณสามารถเคาะเอาฝุ่นออกเองได้ แต่ถ้าเป็นไส้กรองชนิดฟองน้ำคุณต้องล้างในตัวทำละลายหรือน้ำมันเบนซิน แล้ววางไว้ให้แห้งแล้วชุบด้วยน้ำมันเครื่องให้ซึมไปทั่วไส้กรองอีกครั้ง แต่ถ้าหากไส้กรองของคุณสกปรกมากหรือชำรุด ควรทำการเปลี่ยนไส้กรองใหม่

หัวเทียน

ควรหมั่นตรวจเช็คดูหัวเทียนว่ามีคราบเขม่า สิ่งสกปรกติดอยู่ที่เขี้ยวของหัวเทียน เช็คดูว่าหัวเทียนชำรุด
หรือไม่ ควรเปลี่ยนหากหัวเทียนมีระยะเวลาใช้งานมาแล้ว 20,000 กม. หรือเปลี่ยนตามสมุดคู่มือของรถคุณ

การหล่อลื่นสายเคเบิล คันโยกและเดือยด้วยน้ำมัน

เนื่องจากสายเคเบิล ข้อต่อ และจุดหมุนต่างๆ เป็นส่วนที่เปิดโล่ง จึงต้องหยอดน้ำมันหล่อลื่นสม่ำเสมอเพื่อการทำงานที่ดี  เพียงหยอดน้ำมันหล่อลื่น 2 – 3 หยด หรือฉีดสเปรย์หล่อลื่นที่สายเคเบิล ข้อต่อและจุดหมุนต่างๆ บริเวณแฮนด์รถ แป้นเบรก คันเกียร์ และขาตั้ง

การปรับตั้งคลัทช์

การปรับตั้งคลัทช์ให้ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญมากเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเปลี่ยนเกียร์อย่างนุ่มนวลและ
ป้องกันคลัทช์ลื่น คลัทช์ส่วนใหญ่ควบคุมการทำงานด้วยสายเคเบิล และจะมีตัวปรับตั้งคลัทช์และน๊อตล็อคตัวปรับตั้งที่ปลายแต่ละด้านเพื่อตั้งระยะฟรี

ความเร็วของเครื่องยนต์ขณะที่ไม่ได้ใช้งาน (เหนือความเร็ว)

ตรวจดูว่าเมื่อติดเครื่องยนต์ ตรวจความเร็วรอบปกติถูกต้อง โดยยังไม่ต้องเร่งเครื่อง  โดยปกติแล้วจะมีตัวปรับตั้งรอบเดินเบาที่ด้านข้างของคาร์บูเรเตอร์

ผ้าเบรค

ผ้าเบรคของคุณจะสึกหรอไปเรื่อยๆ จนถึงระดับต่ำสุด ซึ่งต้องเปลี่ยนผ้าเบรคใหม่ คุณสามารถดูผ้าเบรคผ่านทางช่องมองของชุดคาลิเปอร์ ผ้าเบรคส่วนใหญ่จะมีร่องหรือขีดบอกระดับความสึกหรอ หากคุณมองไม่เห็นผ้าเบรค ให้ถอดออกจากชุดคาลิเปอร์เพื่อตรวจดู

ข้อมูลจาก Auto Trader

วันอังคารที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2558

Honda Click 125i 2015

รถมอเตอร์ไซค์ Honda Click 125i



เมื่อต้นปีที่ผ่านมา บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า ได้เปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ Honda Click 125i  เป็นรถมอเตอร์ไซค์ออโตเมติกที่ออกแบบมาใหม่ทั้งหมด ด้วยคอนเซปต์ The Rise of Super Sport A.T. นิยามใหม่แห่งผู้นำตัวจริง


หน้าปัดเรือนไมล์แบบดิจิตอล หน้าจอแบบ LCD สีฟ้า ล้ำนำสมัยกับไฟน้าและไฟหรี่แบบ LED ไฟท้ายสไตล์สปอร์ต


เครื่องยนต์ ESP (Enhanced Smart Power) ขนาด 125cc พร้อมกับระบบหัวฉีด PGM-FI ที่ลดแรงเสียดทานมีระบบเผาไหม้ที่สมบูรณ์ ทำงานพร้อมกับระบบหยุดอัตโนมัติ Idling Stop System จึงช่วยประหยัดน้ำมันได้ถึง 58.9 กม./ลิตร และมีระบบกายแรงเบรกหน้า-หลัง เพื่อความมั่นใจ

รถมอเตอร์ไซค์ Honda Click 125i มีจำหน่ายแล้วที่ตัวแทนจำหน่าย Honda ทั่วประเทศด้วยราคาเริ่มต้นที่ 49,500 บาท

เรียบเรียงโดย : JoeBlogger
ข้อมูลจาก : http://car.kapook.com
ภาพจาก : http://www.aphonda.co.th

วันจันทร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2558

Yamaha Mio 125 ตัวใหม่ล่าสุด

  Yamaha Mio 125 ตัวใหม่ล่าสุด


     เมื่อปลายปีที่แล้วรถมอเตอร์ไซค์ Yamaha Mio 125 M3 ตัวใหม่ล่าสุด ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วในประเทศอินโดนิเชีย ด้วยราคา 37,000 บาท






     รถมอเตอร์ไซค์ Yamaha Mio 125 M3 โฉมใหม่นี้ได้ติดตั้งเครื่องยนต์ที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ ที่เรียกว่า Blue Core เป็นเครื่องยนต์ขนาดเล็กที่ทั้งประหยัดน้ำมัน ให้ความสนุกในการขับขี่และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในขณะที่รถมอเตอร์ไซค์ Yamaha Mio J ซึ่งเป็นรุ่นเดิมที่ยังจำหน่ายในประเทศอินโดนิเชียเป็นเครื่องยนต์ขนาด 115cc




     แต่ก่อนหน้านี้ทาง Yamaha ได้เปิดตัว รถมอเตอร์ไซค์ Nozza Grande ซึ่งเป็นรถมอเตอร์ไซ 125cc ที่ติดตั้งเทคโนโลยี Blue Core เช่นกัน ที่ออกแบบมาเพื่อผู้ขับขี่มีอายุน้อย มาพร้อมกับเฟรมดีไซด์ใหม่ น้ำหนักเบา สำหรับตอนนี้รถมอเตอร์ไซค์ Yamaha Mio M3 ยังไม่มีจำหน่ายในไทย แฟนๆของ Mio คงต้องรอข่าวดีจากทาง Yamaha ประเทศไทยต่อไป



เรียบเรียงโดย : JoeBlogger
ข้อมูลจาก : http://auto.sanook.com

วันเสาร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2558

ความเป็นมาของ Honda C70

แนะนำ รถมอเตอร์ไซค์ Honda C70

แนะนำ รถมอเตอร์ไซค์ Honda C70

รถมอเตอร์ไซค์ Honda C70 เริ่มผลิตครั้งแรกในปี ค.ศ. 1967 เป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่มีประสิทธ์ภาพที่สุดในญี่ปุ่น ผู้ได้ลองขับขี่แล้วต้องหลงใหล จึงทำให้เป็นรถมอเตอร์ไซด์ที่ยอดนิยมที่สุด รถมอเตอร์ไซค์ Honda C70 เป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่พัฒนามาจาก Honda C50 Super Cub จึงทำให้มีหน้าตาที่คล้ายกับ Honda C50 มาก หลังจากนั้นทาง Honda ประเทศญี่ปุ่นได้พัฒนาต่อเนื่อง โดยใส่เครื่องยนต์ 72cc เข้าไปเพื่อเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่

Honda C70

ในปี ค.ศ. 1970 ทาง Honda ประเทศญี่ปุ่นจึงเพิ่มการผลิตเพื่อส่งออกจำหน่ายนอกประเทศญี่ปุ่น จนทำให้ปี 1972 ในประเทศอังกฤษ บนท้องถนนนั้นเต็มไปด้วย Honda C70 และรถมอเตอร์ไซค์ Honda C70 ยังเป็นที่ยอมรับของผู้ขับขี่ทั่วโลก เหมือนที่รถมอเตอร์ไซค์ Honda C50 เคยทำให้คนทั่วโลกรู้จัก


ความต่างของรถมอเตอร์ไซค์ Honda C70 และ Honda C50 นั้นต่างกันที่ระบบครัช ซึ่ง Honda C70 เปลี่ยนเป็นระบบครัชอัตโนมัติ ส่วน Honda C 50 นั้น เป็นครัชมือ จึงเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ขับขี่ และยังพัฒนาระบบดรัมเบรกและมือจับ ทำให้ Honda C70 เพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่มากขึ้น


ต่อมาในปี 1982 ทาง Honda ประเทศญี่ปุ่นค้นพบการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีครั้งใหญ่ ได้มีการเปลี่ยนระบบไฟ จาก 6V เป็น 12V และยังนำระบบ CDI เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์และช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น
ทางด้านการขายนั้น บริษัท Honda ในขณะนั้นได้รับขับขอบคุณมากมายจากผู้ขับขี่ เพราะว่ามีบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม

ราคา รถมอเตอร์ไซค์ Honda C70 มีตั้งแต่ไม่ถึงหมื่นไปจนถึงหลายหมื่นบาทครับ



รถมอเตอร์ไซค์ Honda C70 เรายังคงเห็นอยู่บ้างตามท้องถนน ส่วนใครที่เป็นเจ้าของก็ขอให้อนุรักษ์มันไว้ต่อไปให้คนรุ่นใหม่ได้ชมนะครับ


เรียบเรียงโดย : JoeBlogger
ขอบคุณ ข้อมูลจาก : http://golfboranindy.blogspot.com/
ภาพจาก : https://www.google.co.th/